Botulinum Toxin (Botox) โบท็อก


โบท็อกคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

 โบท็อก Botox คือ ชื่อทางการค้าของ Botulinum toxin ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวและช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่รองรับถึงเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยอย่างกว้างขวาง เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ  

          นอกจากนี้การฉีดโบท็อกยังช่วยกระชับกรอบของหน้า ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับหรือถ้าฉีดบริเวณกรามก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง รูปหน้าเรียวลง นอกจากนี้ยังสามารถนำโบท็อกมาช่วยลดเหงื่อ หรือถ้านำไปฉีดที่กล้ามเนื้อแขนหรือขาก็จะสามารถลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อขาบริเวณน่องได้อีกด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=yMF6y7yvoUo&t=106s

โบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง ?

     ในวงการเสริมความงามได้มีการนำโบท็อกมาใช้ในหลากหลายบริเวณตามกลไกการออกฤทธิ์ ดังนี้

1. โบท็อกกรามปรับรูปหน้าเรียว  

     เป็นหนึ่งหัตถการที่นิยมมากๆ ที่ช่วยให้มีใบหน้าที่สวยงาม เรียวเล็ก สวย ดูอ่อนวัย คนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าบานและกว้างไม่เรียว กล้ามเนื้อกรามที่ดูใหญ่นั้นสาเหตุหลักมาจากการใช้งานมากๆ เช่น การเคี้ยวอาหารที่แข็งต้องใช้แรงเคี้ยว การนอนกัดฟัน หรือ เกิดจากกรรมพันธุ์  จึงแนะนำให้เลือกฉีดโบท็อกลดกรามเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวมากขึ้น และเพิ่มความมั่นใจกับใบหน้าของเรา  การฉีดโบท็อกจะช่วยให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัวและอ่อนแรงลง ขนาดเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่


2.โบท็อกริ้วรอย

      ริ้วรอยเป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงการมีอายุที่มากขึ้น ความเหี่ยวย่นบนใบหน้า ใบหน้าขาดความอ่อนเยาว์สดใส อาจเกิดได้จากการมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น แสดงสีหน้าอารมณ์ต่างๆ เช่นการยิ้ม การหัวเราะเยอะๆทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหางตา การเลิกหน้าผากเป็นประจำทำให้เกิดริ้วบริเวณหน้าผาก การขมวดคิ้วทำให้เกิดร่องลึกระหว่างคิ้ว การแสดงสีหน้าต่างๆส่งผลให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าทำงานหนัก จึงเกิดริ้วรอยและร่องลึกตามมาการฉีดโบท็อกบริเวณริ้วรอยช่วยให้ผิวหน้าตึง กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ใบหน้าเด็กลง ลดการเกิดริ้วรอยถาวรบนใบหน้าได้       


3.โบท็อกลิฟต์กรอบหน้า

      โบท็อกลิฟต์กรอบหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ผิวบริเวณใบหน้าและเหนียงหย่อนคล้อย ใบหน้าไม่มีมิติ การฉีดโบท็อกซ์บริเวณกรอบหน้าจะช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับ แนวกระดูกกรามคมชัด ใบหน้าได้รูปมากขึ้น และยังสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวได้อีกด้วย


4.โบท็อกลดหน่อง

     ปัญหาขาใหญ่ ขาไม่เรียว เป็นปัญหาที่หนักใจของสาวๆหลายๆคน ในผู้ที่มีขาใหญ่จากกล้ามเนื้อน่องปูดส่วนมากจะมาจากการใช้กล้ามเนื้อน่องเยอะ เช่น

  • เดินขึ้นลงบันได
  • ปั่นจักรยาน
  • การวิ่ง

เป็นต้น แต่ก็สามารถลดขนาดน่องลงได้ง่ายๆด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดน่อง ผลลัพธ์ที่ได้ขาจะดูเรียวเล็กลง

พร้อมโชว์เรียวขาสวยได้อย่างมั่นใจ


ฉีดโบท็อกแต่ละตําแหน่งต้องใช้ยาเท่าไร ?

      การฉีดโบท็อกในแต่ละตำแหน่งจะใช้โบท็อกในปริมาณที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปหน้า ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และการประเมินในแต่ละตำแหน่งของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก แต่จำนวนยูนิตในใช้โบท็อกแต่ละจุดจะสามารถบอกได้ในปริมาณที่คร่าวๆ ดังนี้

  • โบท็อกกราม ใช้ประมาณข้างละ 25-30 ยูนิต จะทำให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลง ไม่ทำให้แก้มตอบจนเกินไป
  • โบท็อกหน้าผาก ใช้ประมาณ 12-20 ยูนิต จะทำให้หน้าผากตึงเป็นธรรมชาติ
  • โบท็อกหว่างคิ้ว ใช้ประมาณ 6-15 ยูนิต จะทำให้รอยย่นบริเวณขมวดคิ้วตึง แต่สามารถขยับคิ้วได้ปกติ
  • โบท็อกหางตา ใช้ประมาณ 12-16 ยูนิต จะทำให้รอยตีนกาลดลง ในคนที่รอยตีนกาน้อยๆก็จะตึงขึ้น แต่ไม่ได้แข็งมากจนเกินไป
  • โบท็อกลดปีกจมูก ใช้ประมาณ 4-6 ยูนิต จะทำให้เวลาแสดงสีหน้า รอยย่นตรงจมูกจะตึงขึ้น
  • โบท็อกลิฟต์กรอบหน้า ใช้ประมาณ 30-50 นิต จะทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้ากระชับขึ้น
  • โบท็อกลดน่อง ใช้ประมาณ 100-200 ยูนิต จะทำให้กล้ามเนื้อน่องเล็กลง ขาเรียวเล็กได้รูป

บริเวณไหนบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อก ?

          โบท็อกเป็นที่นิยมสูงมากในการปรับรูปหน้าด้านความงาม แต่ตำแหน่งของการฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงนั้น จะมีตำแหน่งที่สามารถฉีดได้และตำแหน่งที่ควรเลี่ยง โดยตำแหน่งที่ไม่ควรฉีดโบท็อก มีดังนี้

  • เปลือกตา มีผลทำให้หนังตาตก หลับตาไม่สนิทได้
  • ร่องแก้ม เวลาแสดงสีหน้า การยิ้มจะไม่เป็นธรรมชาติ
  • ร่องมุมปาก มีผลทำให้มุมปากตกได้เมื่อฉีดผิดตำแหน่ง
  • บริเวณเหนือคิ้ว มีผลทำให้คิ้วตกได้
  • บริเวณโหนกแก้ม หน้าแก้ม ถ้าฉีดลึกไปจะทำให้ยิ้มเบี้ยวได้
  • บริเวณใต้ตา ในเคสที่มีถุงใต้ตาจะทำให้ถุงใต้ตาดูหย่อนชัดเจนมากยิ่งขึ้น

โบท็อกมีกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง ?

     โบท็อกมีหลากหลายแบรนด์จากหลายประเทศที่ได้มาตรฐานอย.ไทย ซึ่งในแต่ละแบรนด์จะมีกระบวนการผลิตที่ แตกต่างกันไป ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้และจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ต่างกัน
      โดย Phimphika clinic จะมีทั้งหมด 4 แบรนด์ด้วยกัน ดังนี้


Botox Allergan 

      เป็นโบท็อกแบรนด์อเมริกาได้รับความนิยมจากทั่วโลก เพราะเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นตัวโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin และเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจาก USFDA แต่ราคาอาจจะสูงกว่าโบท็อกแบรนด์อื่นๆ เพราะมีความบริสุทธิ์มากที่สุด รวมถึงเป็นต้นแบบของโบท็อกหลายๆตัว ตัวยาออกฤทธิ์เร็วเเละมีโอกาสดื้อยาน้อย  ลิฟต์กรอบหน้าเห็นผลดี ได้ความอ่อนโยน  หลังฉีดไปใบหน้าไม่แข็งตึง 
    โบท็อก Allergan จะเหมาะสำหรับฉีดแก้ปัญหาริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว เนื่องจากตัวยาเมื่อฉีดไปแล้วจะไม่กระจายเป็นวงกว้าง ออกฤทธิ์ตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ และอยู่ได้นานกว่าโบท็อกซ์แบรนด์อื่นๆ
อยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือน  


Botox Nabota  

      เป็นโบท็อกที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี โด่งดังในเรื่องของตัวยาที่มีคุณภาพแถมมีราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลียี่ห้อเดียวที่ได้รับมาตรฐานอย.จากสหรัฐอเมริกา(USFDA) ทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ตัวยาของโบท็อก นาโบตะ มีค่าความบริสุทธิ์สูงอยู่ที่ 98.7%   ตัวยาออกฤทธิ์เร็วเเละมีโอกาสดื้อยาน้อย  ลิฟต์กรอบหน้าเห็นผลดี ได้ความอ่อนโยน  หลังฉีดไปใบหน้าไม่แข็งตึง ฉีดแล้วไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้าง เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ลดริ้วรอยใบบนหน้าได้ไว กรามลดลง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน 


Botox Aestox

    เป็นโบท็อกอีกหนึ่งตัวที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ได้การรับรองจากอย.เกาหลีและไทย เป็นตัวยาที่มีความเสถียร เห็นผลลัพธ์ไว มีค่าความ
บริสุทธ์อยู่ที่ 99.5 ช่วยลดอาการเสี่ยงจากการดื้อยา  ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติเมื่อเราทำการฉีดอย่างต่อเนื่อง จะได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและปริมาณในการฉีดจะน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าให้ดูเรียว คมชัด

  อยู่ได้ประมาณ 3-5 เดือน 

Botox Neuronox

โบท็อก จากประเทศเกาหลี เป็น สายพันธุ์ แท้ ออริจินัล Hall A hyper strain สายพันธุ์เดียวกับแบรนด์อเมริกา
ผลิตโดย Medytox โดยเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง เพื่อให้ได้โปรตีนบริสุทธิ์ สูงถึง 99.7% และปราศจาก โปรตีนปนเปื้อน ใช้ฉีด เพื่อ ลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์ กรอบหน้า และลดน่องได้ ผลลัพธ์ ได้ความธรรมชาติ ไม่แข็งตึง

อยู่ได้นานประมาน 4-6 เดือน


การปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อก

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความชำนาญ
  • ตรวจสอบโบท็อกซ์ก่อนฉีดทุกครั้งเพื่อให้มั่นใจได้ว่าฉีดของแท้ได้มาตรฐานอย. โดยตรวจสอบตัวกล่องยาและขวดยาต้องมีข้อมูลที่ตรงกัน หรือบางแบรนด์จะมี QR code ให้แสกนเพื่อเช็คข้อมูลผลิตภัณฑ์
  • งดแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 24 ชั่วโมง
  • ในรายที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลได้ยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา สารสกัดจากโสม ใบแปะก๊วย
  • หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีดโบท็อกซ์

การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อก

   หลังจากฉีดโบท็อกแล้ว ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งมักได้แก่

  1. ไม่นอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการให้นอนหงายหนุนหมอนสูงในคืนแรกของการรักษา
  2. หากเป็นการฉีดโบท็อกกราม หลังฉีด แนะนำหาอะไรเคี้ยว เช่นหมากฝรั่ง หรือลูกอมเป็นเวลา 15 นาทีเพื่อให้ โบท็อกเคล้าคลึง บริหารกล้ามเนื้อ
  3. หลังฉีดสามารถล้างหน้าทาครีมบำรุงได้ตามปกติ
  4. ไม่ประคบร้อน ไม่ทำหัตถการบนใบหน้าที่ใช้ความร้อน เช่น อบซาวหน้า เลเซอร์
    หลังฉีดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  5. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮฮลก์ ภายหลังการฉีด  1-2 สัปดาห์ เนื่องจากจะไปลดฤทธิ์และประสิทธิภาพ ของโบท็อก
  6. ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบท็อกมาเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการทำให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้
  7. ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนวันนัด เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อปรึกษาว่าควรเลื่อนการ ฉีดโบท็อกออกไปก่อนดีหรือไม่

ทาง  Phimphika Clinic เราใช้ Botox ของแท้ 100% มี อ.ย. สวย ปลอดภัย มั่นใจได้  โชว์ขวดและผสมต่อหน้าให้ดูก่อนทุกครั้ง และพบแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าก่อนทุกเคส เพื่อออกแบบให้ เหมาะสมกับสภาพปัญหาของลูกค้า และแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด   


Review


Loading